วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



ASKING ALEXANDRIA


Introduction

Asking Alexandria เป็นวงเมทัลคอร์สัญชาติสหราชอาณาจักร มาจากเมือง York เขตยอร์คเชียร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดย Ben Bruce ซึ่งเป็นมือกีต้าร์ลีดของวงได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าๆหลังจากที่เขาเดินทางกลับอังกฤษซึ่งก่อนหน้านั้นเขาพักอาศัยอยู่ที่ดูไบ สมาชิกของวงในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วย

Ben Bruce - Lead Guitar
Danny Worsnop- Lead Vocal
Cameron Liddell-Rhythm Guitar
Sam Bettley-Bass Guitar
James Cassells-Drums and Percussion

History

Asking Alexandria มีจุดเริ่มต้นจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งมือกีต้าร์ Ben Bruce เริ่มก่อตั้งวงและออกผลงานอัลบั้มเต็ม 1 ชุดกับสมาชิกในวงภายใต้ชื่อวงว่า Asking Alexandria  ต่อมาไม่นานนักก็มีการยุบวง โดย Bruce ได้ออกมาแถลงในวันต่อมาว่า วง Asking Alexandria นั้นจะเหลือแต่เพียงชื่อ ดังนั้นจะไม่มีการออกทัวร์แต่อย่างใด
ในปี 2008 Bruce ได้เดินทางกลับอังกฤษ โดยปล่อยให้สมาชิกคนอื่นๆในวงยังอยู่ในดูไบต่อไป อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น Bruce ยังไม่ได้วางแผนอะไรเกี่ยวกับอาชีพนักดนตรีของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจเริ่มต้นกับสมาชิกใหม่ภายใต้ชื่อวง Asking Alexandria เช่นเดิม โดย Bruce ได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองเป็นผู้หนึ่งที่คิดชื่อนี้ขึ้นมาและเขายังคงชื่นชอบชื่อและความหมายนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อวง Asking Alexandria ต่อไป และเขายังเน้นย้ำอีกว่า วง Asking Alexandria ในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่วงเดียวกับที่แต่ง The Irony of Your Perfection ดังนั้นพวกเขาจึงแตกต่างกันถึงแม้ว่าจะมีจุึดเชื่อมโยงของวงที่คล้ายกันอยู่บ้างก็ตาม แต่คำแถลงดังกล่าวก็ยังคงสร้างความสงสัยให้กับบรรดาแฟนเพลงทั้งหลายอยู่ดี
นับแต่ทางวงก่อตั้งในปี 2008 พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงสมาชิกเพียงไม่กี่คนซึ่งได้เปลี่ยนแปลงจากสมาชิกวง 6 คนเป็น 5 คนโดย Ryan Binns ได้ลาออกจากวงไป รวมทั้งมือเบส Joe Lancaster ที่ลาออกไปเมื่อเดือนมกราคม 2009 โดยได้ Sam Bettley โดยทาง Lancaster ได้ขึ้นเล่นร่วมกับวงในการแสดงสดครั้งสุดท้ายของเขาที่งาน Fibers ในเมืองยอร์ค เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2009  หลังจากนั้นทางวงก็ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการโปรโมตผลงานของพวกเขารวมไปถึงการเตรียมตัวเพื่อบันทึกเสียงในงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาด้วย
หลังจากที่ใช้เวลาในการออกทัวร์ตลอดปี 2008 จนถึงช่วงต้นปี 2009 แล้วนั้น พวกเขาก็เริ่มบันทึกเสียงผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดยเริ่มบันทึกตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2009 ที่ The Foundation Recording Studios ในเมือง Connersville รัฐอินเดียน่า สหรับอเมริกา โดยมีโปรดิวเซอร์ที่ชื่อ Joey Sturgis โดยพวกเขาได้สังกัดอยู่กับค่าย Sumerian Records และในวันที่ 15 กันยายน 2009 พวกเขาก็ได้ปล่อยผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาออกสู่หูของประชาชน โดยอัลบั้มชุดนี้มีชื่อว่า  Stand Up and Scream จากนั้นพวกเขาได้ทำการออกทัวร์ในอเมริการ่วมกับวงดังๆมากมายเช่น Alesana , Enter Shikari , The Bled and Evergreen Terrace เป็นต้น

วันที่ 22 ธันวาคม 2009 ทางวงได้ประกาศว่าพวกเขากำลังเริ่มต้นที่จะทำสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 ในเดือนมกราคม 2010  โดยพวกเขาได้ประกาศว่าจะเริ่มเข้าสตูดิโอกันในเดือนกันยายนโดยยังมือโปรดิวเซอร์คนเดิมคือ Joey Sturgis ทางวงได้ยืนยันผ่านการสัมภาษณ์ทาง Shred News ว่า อัลบั้มชุดที่สองนี้จะวางแผงราวๆต้นปี 2011 และจะมีทั้งสิ้น 12 เพลง
ในเดือนมีนาคม Asking Alexandria ได้มุ่งหน้าไปกับการออกทัวร์รายการ Attack Attack! ซึ่งเป็นการทัวร์ในแถบอเมริกาเหนือก่อนที่จะจบทัวร์นี้ในเดือนเมษายน หลังจากนั้นพวกเขาจะออกทัวร์ยุโรปรวมถึงการทัวร์ยิ่งใหญ่ประจำปีในรายการ Groezrock Festival ด้วย
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2011 ที่ผ่านมา ทางวงได้วางแผลอัลบั้ม EP ที่มีชื่อว่า Stepped Up and Scratched ซึ่งเป็น Remixed Album
ล่าสุดทางวงได้ออกมาประกาศแล้วว่า สตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของพวกเขาที่ชื่อ Reckless and Relentless จะวางจำหน่ายในวันที่ 5 เมษายน 2011นี้ครับ

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555








เฮฟวีเมทัล






เฮฟวีเมทัล (อังกฤษHeavy metal) (ในบางครั้งจะเรียกสั้น ๆ ว่า เมทัล) เป็นแนวเพลงร็อกประเภทหนึ่งที่พัฒนาในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 และต้นทศวรรษที่ 70 ด้วยรากฐานของดนตรีบลูส์-ร็อก และ ไซเคเดลิกร็อก โดยมีหลายวงได้พัฒนาเฮฟวีเมลทัล ให้มีความหนา, หนัก, ดนตรีที่เน้นกีตาร์และกลอง และลักษณะเฉพาะตัวที่มีการโซโล่กีตาร์ที่รวดเร็ว
เพลงแนวเฮฟวีเมทัลได้รับความนิยมจากแฟนทั่วโลก ที่แฟนเหล่านั้นจะเรียกตัวเองว่า เมทัลเฮดส์ หรือ เฮดแบงเกอร์ และถึงแม้ว่าวงเมทัลในช่วงต้น ๆ อย่าง เล็ด เซ็พเพลินแบล็ค แซบบาธ และ ดีพ เพอร์เพิล จะได้รับความสนใจจากกลุ่มคนฟังหลัก แต่ก็มีบ้างที่พวกเขาจะถูกด่าทอ

ประวัติ
ความเป็นมานั้นเริ่มจาก กลุ่มศิลปินที่เดิมเล่นเพลงบลูส์ ในช่วงปี 1966 - 68 เช่น วงครีมซึ่งมี อีริค แคลปตัน เป็นมือกีตาร์และนักกีตาร์ไฟฟ้าที่ชื่อ จิมิ เฮนดริกซ์ ซึ่งใช้เครื่องช่วยขยายเสียงกีตาร์ไฟฟ้าให้มีเสียงอันดังสนั่น เกิดแนวทางใหม่ๆในการเล่นกีตาร์ไฟฟ้าของดนตรีร็อก เช่น การใช้เสียงหอนกลับ(Feedback) เสียงบิดเบือน (Distortion) หรือ เพี้ยน วงครีม มีเพลงฮิตที่ตามมาเช่น I feel free(1966) ,Sunshine of your love(1967),White room(1968) เป็นต้น โดยเฉพาะเฮ็นดริ๊กซ์นั้น เขามีการเล่นที่น่าตื่นตา เช่นการเล่นกีตาร์ด้วยฟัน เป็นต้น เพลงฮิตที่ตามมาของเขา เช่น Purple Haze(1967) , Hey Joe, The Wind Cries Mary,Voodoo Child(1968)ซึ่งเพลงเหล่านั้นนับว่าเป็นเพลงแนวฮาร์ดร็อก ยุคแรกๆ ที่ติดอันดับ Top Chart ในยุคนั้น
ต่อมาได้ข้ามาถึงฝั่งอเมริกา เมื่อดนตรีแนว ไซคเดลิค ได้เข้ามาอิทธิพลในอเมริกา วงอย่าง บลู เชียร์ ได้พัฒนาแนวดนตรีขึ้นมาอีกขั้น โดยจะมีความเป็นฮาร์ดร็อคมากยิ่ง ขึ้น ได้เปิดอัลบั้มแรกของพวกเขาในปี 1968 มีเพลงฮิตเช่น Summertimes Blues เป้นต้น ในปีเดียวกัน วง สเต็พเพ็นวูลฟ์ ได้มีเพลงฮิต ชื่อ Born to be Wild (1968)ซึ่งในเพลงนั้นมีวลีว่า Heavy Metal Thunder ซึ่งได้เอาเพลงฮุคท่อนนี้ มาใช้บัญญัติคำดนตรีแนวนี้ว่า เฮฟวี่เมทัล ในเวลาต่อมา ซึ่งทั้ง 2 วงนี้ได้นำเอาคีย์บอร์ดมาใช้ผสมกับดนตรีแนวนี้เพื่อความหนักหน่วงของดนตรีแนวนี้มากขึ้น
วง เล็ด เซ็พพลิน นับเป็นวงที่เริ่มบุกเบิกดนตรีเฮฟวี่เมทัล ยุคใหม่ เป็นที่รู้จักกันดีด้วยเสียงดนตรีอันดังสนั่น โดยพัฒนาแนวดนตรีบลูส์ของอังกฤษ ผสมกับ โฟล์ก ซึ่งพวกเขาตั้งวงกันเมื่อปี 1968 และมีเพลงฮิตในปีถัดมา ซึ่งมีเพลงแนวเฮฟวี่ร็อค อย่าง Communication Breakdown (1969) และเพลงที่หลายๆคนยกย่องกันว่าเป็นเพลงเฮฟวี่เมทัลขนานแท้ของวงนี้คือ Stairway to Heaven (1971) ซึ่งดนตรีของวงนี้มีลักษณะที่พิเศษกว่าวงฮาร์ดร็อกยุคก่อนๆคือ สไตล์การร้องเพลงของนักร้องนำคือ โรเบิร์ต แพลนท์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในการร้องแบบโหยหวนเต็มพลังอารมณ์ และ สไตล์การเล่นกีตาร์ของ จิมมี่ เพจที่ออกแนวโลดโผน เร้าใจ ซึ่งทำให้เป็นแรงบันดาลใจแก่วงเฮฟวี่ร็อครุ่นหลังๆ ต่อๆมา วง ดีพ เพอร์เพิล ซึ่งมาในรุ่นเดียวกัน ก็ปล่อยซิงเกอร์ออกมาคู่กับ วงเลด เซ็พพลิน ซึ่งวงนี้จะออกแนว ไซเคเดลิก หรือ ฮาร์ดร็อก มากกว่า ของช่วงยุคแรกๆ
วง แบล็ค แซบบาธได้ช่วยบุกเบิกดนตรีแนวนี้ในอังกฤษเมื่อปี 1970 ซึ่งพัฒนาแนวไปอีกอีกขั้นหนึ่ง โดยลักษณะเด่นของวงนี้คือ เสียงกีตาร์ที่มีลักษณะเฉพาะของ โทนี่ ไอออมมี่ ซึ่งมีโทนเสียงกีตาร์ที่ต่ำและแตกพร่า ที่เกิดจากความผิดปกติของนิ้วของเขา และเนื้อหาของดนตรีที่ออกแนวที่เกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัว ความเป็นไปของสังคมในด้านลบ และอิทธิพลของยาเสพติดในยุคนั้น และความเป็นบลูส์ในเนื้อดนตรี เริ่มลดลง พวกเขามีเพลงฮิตอย่าง Paranoid (1970) ซึ่งต่อมาวงนี้ได้รับการกล่าวขวัญว่า เป็น วงดนตรีเฮฟวี่เมทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดวงหนึ่งของโลกตลอดกาล วงอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลในข้างต้นนั้นวงอื่นๆ ก็มีเช่น ยูราย ฮีพสกอร์เปียนส์ ,UFOหรือแม้กระทั่งวงอย่าง ควีน เป็นต้น วงเหล่านี้ล้วนมาจากฝั่งยุโรปทั้งสิ้น โดยในฝั่งอมริกา ก็มีวงอย่างเช่น แกรนด์ฟังก์เรลโรด ,คิส,บลูออยส์เตอร์คัลต์ เป็นต้น
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 70 จูดาส พรีสต์ ได้กระตุ้นการพัฒนาการของแนวเพลงนี้โดยละทิ้งอิทธิพลของเพลงแนวบลูส์ทิ้งไป และกระแสเฮฟวีเมทัลในสหราชอาณาจักร ก็ตามมาคล้าย ๆกัน คือรวมความรู้สึกของพังค์ร็อกเข้าไปและเพิ่มเน้นในเรื่องของความเร็วเข้าไป
วงเฮฟวีเมทัล ได้ก้าวสู่ความนิยมหลักในทศวรรษที่ 80 เมื่อมีการขยายไปของแนวเพลงย่อยเกิดขึ้น ความหลากหลายนี้ได้เพิ่มความก้าวร้าวและสุดขีดมากกว่าเมทัลในอดีต ที่มักจะจำกัดวงเฉพาะกลุ่มคนฟังใต้ดิน วง ไอร่อน เมเด้น ได้เป็นผู้นำดนตรีเฮฟวี่เมทัล แนวที่เรียกกันว่า NWOBHMหรือ New Wave Of British Heavy Metal ซึ่งจะไม่มีอิทธิพลของดนตรีบลูส์หลงเหลืออยู่เลย แนวนั้นจะก้าวร้าวขึ้น รวดเร็วยิ่งขึ้น และได้มีอิทธิพลหลักต่อแนวเพลงย่อยของดนตรีเฮฟวี่เมทัลในเวลาต่อมา ในที่นี้รวมถึง แกลมเมทัล และ แทรชเมทัล ก็ได้เข้าสู่กระแสหลักได้ ในปัจจุบัน แนวเพลงอย่าง นูเมทัล ก็ได้ขยับขยายไปจากเฮฟวีเมทัล